เมดูซ่า
GORGON
ก่อนจะเข้าสู่เรื่องของเมดูซ่า เรามารู้จักกอร์กอนกันก่อนแล้วกันนะครับ
กอร์กอน มาจากภาษากรีก gorgós หมายถึง น่าเกลียดน่ากลัว
กอร์กอน เป็นอสูรกายน่าเกลียดน่ากลัวมีผมเป็นงู เมื่อถูกจ้องตาจะกลายเป็นหิน มีด้วยกันสามพี่น้อง คือ สธีโน่ (Stheno) ผู้เกรียงไกร, ยูไรเอล (Euryale) ผู้โลดโผน และ เมดูซ่า (Medusa) ผู้งดงาม
ในสามพี่น้อง เมดูซ่า เป็นเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่เป็นมนุษย์ พี่สาวทั้งสองของเธอเป็นอสุรกายน่ากลัว มีผมเป็นงู หางเป็นงู มีปีกสีทองเหลือง และผิวหนังเป็นเกล็ด ทั้งยังเป็นอมตะไม่สามารถฆ่าให้ตายได้
เหล่ากอร์กอน เป็นลูกของเทพแห่งท้องทะเลฟอซิส Phorcys และซีโต Ceto และยังเป็นหลานของไกอาอีกด้วย (ในบางเว็ปบอกว่ามารดาของเมดูซ่าคือเมทิส Metis เจ้าแห่งปัญญา หรือก็คือเป็นพี่น้องกับอเธน่า แต่ในเว็ปภาษาอังกฤษที่ผมหา ยังไม่เจอบทความไหนเลยนะครับ ที่บอกว่า เมทิส เป็นมารดาของเมดูซ่า)
MEDUSA
ความหมาย
คำว่า เมดูซ่า - Medusa เป็นคำที่มีมานานมากแล้ว ที่ยังคงเป็นรากศัพท์ไว้ในหลายๆภาษาโบราณ เช่น ในภาษาสันสกฤต คือ เมธา (ผู้ปราดเปรื่อง)ในภาษากรีก คือ Metis (เทพเห่งปัญญา)และในภาษาอียิปต์โบราณคือคำว่า Met หรือ Maat (เทพแห่งความสามัคคี)
ตำนาน
เอาล่ะครับเรามาเข้าเรื่องหลักๆของเมดูซ่ากัน เรื่องราวของเมดูซ่าที่ผมหามีด้วยกัน 4 เรื่องนะครับ ความจริงผมกะจะเอามาเรื่องเดียว แต่พอหาๆดูแล้วมันแตกต่างกันจนเอามารวมกันเป็นเรื่องเดียวไม่ได้น่ะครับ ผมก็เลยสรุปไว้ได้ 4 เรื่อง
ดังนี้ครับ...
เรื่องที่หนึ่ง เล่าว่า
-->เมดูซ่าเป็นหญิงสาวที่งดงามมาก โดยเฉพาะเส้นผมของเธอซึ่งเป็นที่ล่ำลือว่างดงามที่สุด งามยิ่งกว่าเทพีไหนๆ หรือแม้แต่เทพีอเธน่าเสียอีก ซึ่งตรงจุดนี้แหละที่ทำให้อเธน่าอิจฉานางมากๆ
-->เมดูซ่าและพี่สาวของเธออาศัยอยู่ในดินแดนที่ไกลโพ้นทางตอนเหนือ ไกลจนแสงอาทิตย์ไม่อาจทอดลงมาได้ ด้วยความอยากรู้อยากเห็นของเมดูซ่า เธอจึงขอเทพีอเธน่าให้พาเธอไปดินแดนทางใต้เพื่อชมพระอาทิตย์ แต่อเธน่าปฏิเสธ เมดูซ่าจึงพูดออกไปด้วยความโกรธว่า "ที่ท่านไม่พาข้าไปเพราะท่านอิจฉาในความงามของข้าใช่หรือไม่" ทันใดนั้นเทพีอเธน่าก็สาปให้ผมที่สวยงามของเธอเป็นงู และมีรูปร่างเป็นอสุรกายเหมือนพี่สาวของเธอ

เรื่องที่สอง เล่าว่า
-->เมดูซ่า และพี่สาวทั้งสาม เป็นพี่น้องร่วมมารดากับอเธน่า อเธน่าเกลียดเหล่ากอร์กอนที่มีมารดาเดียวกับนางมากจึงหาทางกำจัดทิ้ง เพราะพี่สาวทั้งสองของเมดูซ่าเป็นอมตะ อเธน่าจึงไม่สามารถทำอะไรได้ เป้าหมายของนางจึงตกอยู่ที่เมดูซ่าเพียงผู้เดียว
-->วันหนึ่งขณะที่เธอเข้าไปสักการะในวิหารของเทพีอเธน่า (หญิงสาวทั่วไปจะมาสักการะที่นี่ เพราะเป็นวิหารแห่งพรหมจรรย์) เทพเนปจูนหรือก็คือโพไซดอนก็มาวิหารนี้เช่นเดียวกัน เมื่อโพไซดอนเห็นเมดูซ่าปุ๊ปก็หลงรักทันที อยากจะได้มาครอบครอง ก็เลยข่มขืนเธอที่นั่น! ได้โอกาสของอเธน่าแล้ว นางใส่ร้ายเมดูซา ว่ามาสมสู่ชายในวิหารของนาง จึงสาปให้เส้นผมของเธอเป็นงู มีรูปร่างอัปลักษณ์ ชายใดที่เธอเห็นจะต้องเป็นหิน! หึหึ วะฮ่าๆ<<เสียงอเธน่า

เรื่องที่สาม เล่าว่า
-->เมดูซ่าเป็นหญิงงามที่มีชายมากมายหมายปอง เรื่องความงามนี้ไปเข้าหูของเทพแห่งน้ำโพไซดอน ซึ่งโพไซดอนเองก็อยากจะรู้ว่านางเมดูซ่านั้นจะงามเพียงใด เมื่อพบเมดูซ่าโพไซดอนก็หลงรักในความงามนั้นทันที จึงฉุดเมดูซ่าเข้าวิหารที่อยู่ใกล้ๆนั้นเพื่อขมขื่น! แต่วิหารที่โพไซดอนฉุดนางเมดูซ่าเข้าไปกลับเป็นวิหารอันศักดิ์สิทธิ์ของเทพีอเธน่าเสียนี่ เธอโกรธมากที่เมดูซ่าทำให้วิหารแห่งพรหมจรรย์ของนางต้องแปดเปื้อน จึงสาปให้นางเป็นอสูรร้าย มีผมเป็นงู
-->ตอนนั้น เมดูซ่า เหมือนกับตกนรกทั้งเป็น เธอจ้องมองทุกสิ่งทุกอย่างด้วยความเคียดแค้น โดยเฉพาะบุรุษทุกคน ความเคียดแค้นของเธอนั้นมีมากเสียจนทำให้ใครก็ตามที่ถูกนางจ้องมองต้องกลายเป็นหิน...
*แต่ก็มีจุดที่เหมือนกันอยู่ในสามตำนานแรกก็คือ แม้ว่าเมดูซ่าจะกลายร่างเป็นอสูรร้ายไปแล้ว แต่ใบหน้าของนางก็ยังงดงามอยู่ จึงมีชายมากมายที่อยากจะเห็นใบหน้านั้น จึงพยายามเข้าไปในถ้ำเพื่อพิสูจน์แต่ก็กลายเป็นหินไปหมด...*
เรื่องที่สี่ เล่าว่า
-->เมดูซ่านั้นเป็นเจ้าป่าเจ้าเขา (อยู่ในตำนานของลิเบีย) มีผมขอดหยิกหยักถักเป็นเปียเล็กๆทั่วทั้งหัวแบบชาวอัฟริกัน (dreadlocks) ดูคล้ายงู เป็น ที่นับถือของชาวลิเบียโบราณว่าเป็น เทพแห่งงู หรือเจ้าป่าเจ้าเขาผู้มีอำนาจดุร้าย ในยุโรปสมัยโบราณยุคหิน งู ยังไม่ได้เป็นสัญลักษณ์ของความชั่วร้ายแต่เป็นสัญลักษณ์ของพลังอำนาจเหนือ ธรรมชาติ
-->600 ปีก่อนคริสตกาลชาวกรีกก็ผูกเรื่องให้เมดูซ่าเป็นนางมารร้าย และทำลายวิหารเมดูซ่าทิ้งไป
-->จากเดิมที่เมดูซ่าเป็นที่ยกย่องบูชา ก็เปลี่ยนเป็นเทพีอเธน่า ผู้เป็นเทพสตรีตัวอย่างของสังคม ที่ชาวกรีกต้องการใช้เป็นแบบอย่าง(ไม่ได้เป็นเจ้าป่าเจ้าเขาอย่างเมดูซ่า) คือรักษาพรหมจรรย์ และรับใช้ครอบครัว ยึดมั่นในความซื่อสัตย์จงรักภักดีและเทิดทูน ซีอุส เหนือตนเอง

จุดจบเมดูซ่า
เรื่องราวของเมดูซ่าดำเนินมาถึงจุดจบแล้วนะครับ TT
เมดูซ่าถูกสังหารโดยเพอร์ซีอุส แต่ก็ไปว่าเพอร์ซีอุสเค้าไม่ได้นะครับ เพราะเพอร์ซีอุสต้องการช่วยแม่ของตนดาเน่ จึงต้องทำตามคำท้าทายของกษัตริย์โพลิเดคเทส ด้วยการตัดหัวของเมดูซ่ามาให้ แล้วเพอร์ซีอุสก็ทำสำเร็จ สามารถสังหารเมดูซ่าได้ด้วยความช่วยเหลือของ อเธน่า และ เฮอร์เมส (เอ่อ อเธน่าแค้นอะไรเมดูซ่านักหนาครับนี่?) เพอร์ซีอุสนำหัวของเมดูซ่ากลับไป และทำให้กษัตริย์กลายเป็นหิน เมื่อสามารถช่วยแม่ของตนได้แล้ว ก็นำหัวของเมดูซ่าไปให้เทพีอเธน่า และเทพีอเธน่า ก็นำหัวของเมดูซ่าไปประดับโล่ห์ประจำองค์ครับ (บางตำนานบอกว่าเพอร์ซีอุสใช้หัวของเมดูซ่าฆ่ามังกรทะเล Cetus)
รู้รึเปล่าครับว่าว่าขณะที่ฆ่าเมดูซ่านั้น เลือดของนางได้หยดลงไปในทะเลสองหยด หยดแรกได้ให้กำเนิดเป็น ไครเซเออร์(Chrysaor) หยดที่สองได้ให้กำเนิดเป็น เพกาซัส (Pegasus) บ้างก็ว่าเพกาซัสนั้นกระโจนออกมาจากคอของเมดูซ่าเลยทีเดียว แล้วรู้มั้ยครับว่าใครจะเป็นพ่อ แต่น แต๊น~ โพไซดอนไงละครับ! เพราะมหาสมุทรเปรียบได้ดั่งโพไซดอนนั่นเอง

เพิ่มเติม+แก้ข้อสงสัย by BBF
มาอีกแล้วนะครับไอหัวข้อแบบนี้ 555+ จะมีคนสงสัยหรือข้องใจแบบผมรึเปล่าครับว่าแม่ของเมดูซ่าในตำนานแท้จริงนั้นเป็นใคร?
ถึงผมจะบอกในบทความไปแล้วว่าพ่อแม่ของเมดูซ่าคือฟอซิสกับซีโต แต่หลายคนคงเคยได้ยินว่าเมทิสเป็นมารดาของเมดูซ่า ซึ่งในกรณีนี้ก็เท่ากับว่าเมดูซ่าเป็นพี่น้องกับเอเธน่าไปในตัว (ซูสกลืนเมทิสและให้กำเนิดอเธน่าออกมา) ผมว่าการเข้าใจแบบนี้ทำให้เนื้อเรื่องของเมดูซ่าสนุกขึ้นเป็นเท่าตัว แต่อย่างไรแล้วสำหรับผมพ่อแม่ของเมดูซ่าก็ยังคงเป็นฟอซิสกับซีโตเช่นเคย =x= ดังนั้นผมจะขออธิบายความเข้าใจนี้ของผมครับ...
เมื่อลองหารากศัพท์ของคำว่าเมดูซ่าแล้วจะพบว่า Medusa จะเท่ากับภาษากรีกโบราณคำว่า Metis ครับ นี่เป็นสาเหตุแรกที่ทำให้คิดว่า Medusa ถือกำเนิดมาจาก Metis สาเหตุที่สองคือความคล้ายคลึงของตำนานและความสามารถของทั้งสองครับ กล่าวคือ เมทิสเป็นผู้มีปัญญาเป็นเลิศกว่าใคร ซูสจึงกลืนกินนางด้วยกลัวว่าความฉลาดของนางจะเป็นภัย ส่วนเมดูซ่าเป็นผู้มีใบหน้าและจิตใจที่งดงาม จนอเธน่าอิจฉาและทำลายเธอ (ความจริงความสามารถของเมดูซ่านี่ อยู่ในขั้นเทพเลยนะครับ เธอสามารถติดต่อกับความมืดมิด ความเลวทราม และโลกหลังความตายได้อย่างชิวๆเลยละ เพราะเมื่อเทียบสามพี่น้องกับดวงจันทร์แล้ว พี่ทั้งสองของเมดูซ่าเป็นเดือนหงายและจันทร์เต็มดวง ส่วนเมดูซ่านั้นเป็นเดือนคว่ำ ซึ่งเปรียบเป็นเงาของเหล่ากอร์กอนนั่นเอง) นอกจากนี้ส่วนในตำนานที่เหมือนกันอีกจุดก็คือการตายครับ ซึ่งทั้งเมทิสและเมดูซ่าพอตายปุ๊บลูกก็เกิดขึ้นมาปั๊บ
ด้วยความเหมือนเหล่านี้เองที่ทำให้หลายคนคิดว่าเมทิสเป็นมารดาของเมดูซ่า จนเกิดการสับสนและเชื่อว่าเป็นอย่างนั้นจริงๆ อย่างไรก็ดีตำนานก็คือตำนานครับ การเล่าเรื่องมากันเป็นทอดๆก็ก่อให้เกิดความคลาดเคลื่อนได้ ควรใช้วิจารณญาณในการคิดตามจะดีที่สุดนะครับ >w<
ปล.ผมใช้วิจารณญาณของผมบวกกับเว็ปในการอธิบายเรื่องราวเหล่านี้ หากขัดต่อความคิดใครก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ